การฟื้นเห็นเป็น 3 มิติ (
อังกฤษ: Stereopsis recovery, recovery from stereoblindness) เป็นปรากฏการณ์ที่ผู้
บอดไม่เห็นเป็น 3 มิติจะได้คืนสมรรถภาพ
การเห็นเป็น 3 มิติอย่างเต็มตัวหรือโดยส่วนหนึ่งการรักษาคนไข้ที่มองไม่เห็นเป็น 3 มิติมีเป้าหมายให้ได้คืนสมรรถภาพนี้ให้มากที่สุด เป็นเป้าหมายที่มีในการแพทย์มานานแล้วการรักษาจะมุ่งให้เห็นเป็น 3 มิติในทั้งเด็กเล็ก ๆ และคนไข้ที่เคยเห็นเป็น 3 มิติผู้ต่อมาเสียสมรรถภาพไปเนื่องจากภาวะโรคโดยเปรียบเทียบกันแล้ว การรักษาโดยจุดมุ่งหมายนี้ จะไม่ใช้กับคนไข้ที่พลาดระยะการเรียนรู้การเห็นเป็น 3 มิติในช่วงต้น ๆ ของชีวิตไปเพราะ
การเห็นเป็นภาพเดียวด้วยสองตาและ
การเห็นเป็น 3 มิติ ดั้งเดิมเชื่อว่า เป็นไปไม่ได้ยกเว้นจะได้สมรรถภาพนี้ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ (critical period) คือในช่วงวัยทารกและวัยเด็กต้น ๆ
[1]แต่
สมมติฐานนี้ก็ไม่ได้สอบสวนและได้กลายเป็นรากฐานของวิธีการรรักษาโรคการเห็นด้วยสองตาเป็นทศวรรษ ๆจนกระทั่งเร็ว ๆ นี้ที่เกิดข้อสงสัยเพราะงานศึกษาเรื่องการฟื้นเห็นเป็น 3 มิติที่ได้ปรากฏใน
วารสารวิทยาศาสตร์และได้ปรากฏต่อสาธารณชนต่อมาว่า นัก
ประสาทวิทยาศาสตร์ ดร.
ซูซาน อาร์ บาร์รีย์ ได้เกิดการเห็นเป็น 3 มิติในวัยผู้ใหญ่ ดังนั้น เมื่อมองย้อนหลัง ข้อสมมุติที่ว่านั้น จึงดูเหมือนเป็นเพียงความเชื่อทางวิทยาศาสตร์
[2][upper-alpha 1][upper-alpha 2][3]เร็ว ๆ นี้ จึงได้มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นเห็นเป็น 3 มิติในผู้ใหญ่และเยาวชนที่ไม่เคยมีสมรรถภาพนี้มาก่อนแม้จะได้แสดงแล้วว่า ผู้ใหญ่ก็อาจจะได้สมรรถภาพนี้เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่สามารถพยากรณ์โอกาสที่ผู้บอดไม่เห็น 3 มิติจะฟื้นกลับเห็น และก็ยังไม่มี
ความเห็นพ้องว่าวิธีการรักษาไหนดีที่สุดนอกจากนั้น ความเกี่ยวข้องกับการรักษาเด็กที่มีตาเหล่แบบ infantile esotropia ก็ยังศึกษาอยู่